ประวัติและความเป็นมา "พระพิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับ เนื้อผงยาจินดามณีจุ่มรัก หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
"พระพิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับ เนื้อผงยาจินดามณีจุ่มรัก หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว" พระชุดผงยาวาสนา หรือ ผงยาจินดามณี ของหลวงปู่บุญ ซึ่งเป็นอยู่ในชุดพระเครื่องที่นิยมของนักสะสม และพิมพ์ที่แพงที่สุดในตระกูลผงยาจินดามณีจุ่มรัก คือพิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับ พระเนื้อผงจินดามณีของหลวงปู่บุญนั้น นับว่าเป็นสุดยอดของวัดกลางบางแก้ว เนื่องจากยาจินดามณี เป็นตำรับยาที่มีคุณอเนกอนันต์ และมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่เสาะหาของนักสะสมพระเครื่อง ตำรับยานี้เป็นของตกทอดมากับวัดกลางบางแก้ว มีการบันทึกไว้โดยพระอาจารย์ทอง เจ้าอาวาสรูปก่อนหน้าหลวงปู่บุญ ว่ากันว่า ตำรับยานี้เป็นของสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว แห่งกรุงศรีอยุธยา #ตำรับยานี้บันทึกในสมุดข่อย ลงทองล่องชาด เป็นสมบัติล้ำค่าของวัดกลางบางแก้ว กล่าวถึงกรรมวิธีการสร้างที่ละเอียดและยุ่งยากมาก เฉพาะแค่หาตัวว่านยามาให้ครบตามตำรา ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ว่านยาแต่ละชนิดต้องนำมาเสกด้วยคาถากำกับ เมื่อเสกตัวยาแต่ละส่วนแล้ว ก็เอามาผสมคลุกเคล้ากันโดยมีเสกคาถากำกับตลอดเวลา ตัวหินบดยาก็ต้องลงอักขระ ทั้งตัวลูกหินและแม่หินและมีคาถากำกับขณะบดยาด้วย #มีบันทึกเป็นโครงกลอนถึงตัวยาว่าด้วยเรื่อง ยาจินดามหามณี ดอกคราด ดอกจันทร์ เกสรบุษบัน เปราะหอม กำยาน โกฐสอ โกฐเขมา ทองน้ำประสาน เปลือกกุ่มชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน ผสมแล้วตำบด พิมเสมชมด น้ำผึ้งรวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้นผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกิน เป็นยาวาสนา เลิศล้ำตำรา ในโลกแดนดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กิน จะสวัสดิโสภิน กว่าคนทั้งหลาย พัสดุเงินทอง จักพูนกูนกอง กว่าโลกหญิงชาย นำมาบูชาอภิวาท์บ่วาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยาโทษหนักเท่าหนัก มาตร์แม้นประจักษ์ ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นได้กิน ซึ่งยาวาสนา กลับน้อยถอยคลา เคลื่อนคลายหายเอยฯ #มีคำบอกเล่ามาตั้งแต่ในอดีตว่า ยาวาสนาจินดามณี เป็นชื่อมงคลได้เสกอาคมเข้าไปเพื่อช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ ผู้ใดได้กินยานี้จะมีลาภผลบังเกิดแก่ตน ป้องกันและรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้ดี แม้แต่ผู้ป่วยด้วยโรคร้ายที่อาจจะถึงตายก็บรรเทาเบาบางลงได้ และยังสามารถพกพาติดตัวเพราะผงยาจินดามณีขึ้นชื่อว่ามีทั้งพุทธคุณสูง รวมทั้งสามารถป้องกันคุณไสย สัตว์ร้าย และภูตผีปีศาจทั้งหลาย #การสร้างผงยาจินดามณี มีการบันทึกว่า หลวงปู่บุญ ได้สร้างยาจินดามณีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นคือ ในปี พ.ศ.2435 และปีพ.ศ. 2476 เพราะความยุ่งยากในการสร้างตามตำราโบราณ เมื่อได้ตัวยาตามต้องการแล้ว จึงจัดการทำพิธี ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 12 ซึ่งหากปีใดได้ราชาฤกษ์ หรือเพชรฤกษ์ จัดว่าดีเยี่ยม ต้องจัดเครื่องสังเวยเทวดา รวมทั้งราชวัตรฉัตรธง ภายในพระอุโบสถ และมีสายสิญจน์รอบพระอุโบสถแต่ละทิศให้ลงยันต์ประจำทิศด้วยผ้าแดง ด้านหน้าพระอุโบสถให้ลงยันต์ตรีนิสิงเห และยันต์จินดามณีประกอบไว้ #เมื่อได้ฤกษ์ให้ชุมนุมเทวดาแล้วให้พระภิกษุและฆราวาสที่ร่วมพิธี ปั้นเม็ดยา ขณะปั้นเม็ดยานั้นก็ต้องภาวนาคาถาตลอดเวลา ฆราวาสที่เป็นหญิงต้องเป็นพรหมจรรย์ ทั้งฆราวาสชายหญิงต้องรักษาศีลอุโบสถมาแล้ว 3 วัน หลังจากที่ปั้น เม็ดยาวาสนาจินดามณี เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่ก็จะนำไปปลุกเสกอีกอย่างน้อย 7 เสาร์ 7 อังคาร การสร้างยาจินดามณี ส่วนใหญ่จะปั้นเป็นลูกกลมๆ หรือเป็นแท่ง และกดพิมพ์เป็นพระเครื่องพิมพ์ต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง แล้วถวายให้หลวงปู่บุญปลุกเสกอีกครั้งหนึ่ง พระเครื่องที่สร้างด้วยผงยาจินดามณี พิมพ์นิยมสุด คือ พิมพ์เศียรโล้นสะดุ้งกลับที่นำมาให้ชมในวันนี้ หลวงปู่บุญ ขันธโชติ วัดกลางบางแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม เกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2391 ตรงกับปลายรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร อายุ 15 ได้บรรพชาเป็นสามเณร ต่อมาได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2412 ท่านครองสมณเพศตลอดมา จนได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระราชาคณะที่ พระพุทธวิถีนายก ท่านได้สร้างวัตถุมงคลภายหลังจากเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี 2429-2478 มรณภาพเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2478 สิริรวมอายุ 86 ปี พรรษา 66ครับ #สถาบันรับรองและตรวจสอบวัตถุมงคลประเทศไทย เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ชั้น 1 (เปิดบริการทุกวัน)<br /> เวลา 11.00 น. - 20.00 น. ติดต่อ 02-1938223-4 / 065-5824972 #ป๋องสุพรรณการันตี <br /> #สถาบันรับรองและตรวจสอบวัตถุมงคลประเทศไทย<br /> #ใบรับรองพระแท้ <br /> #ออกใบรับรองพระแท้ <br /> #ใบรับรองพระ<br /> #ตรวจสอบพระ <br /> #ตรวจสอบวัตถุมงคล
อัพเดต: 09/07/2020
| อ่าน: 8,935 คน